จดหมายของเลนทูลัสเกี่ยวกับการปรากฏตัวของพระเยซู: ความลึกลับทางประวัติศาสตร์

 

 

การแนะนำ

จดหมายของเลนทูลุสเป็นเอกสารโบราณที่บรรยายลักษณะภายนอกของพระเยซู เป็นที่หลงใหลของนักประวัติศาสตร์ นักเทววิทยา และผู้ศรัทธามาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ เอกสารนี้อ้างว่าเป็นจดหมายที่เขียนโดยปูบลิอุส เลนทูลุส ผู้ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นผู้ปกครองโรมันในกรุงเยรูซาเล็มก่อนสมัยของปอนทิอัส ปีลาต โดยเอกสารนี้ให้คำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับพระเยซู ซึ่งถือเป็นแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดและความถูกต้องของจดหมายฉบับนี้ยังคงเป็นปริศนา ในบทความนี้ เราจะสำรวจเนื้อหาของจดหมายของเลนทูลุสตรวจสอบบริบททางประวัติศาสตร์ และหารือถึงข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความถูกต้องของจดหมาย

เนื้อหาของจดหมาย

จดหมายของเลนทูลัสบรรยายถึงภาพลักษณ์ของพระเยซูที่โดดเด่น ซึ่งแตกต่างอย่างมากจากข้อความคริสเตียนยุคแรกๆ อื่นๆ ซึ่งมักจะหลีกเลี่ยงคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกของพระองค์ ในจดหมาย พระเยซูถูกบรรยายว่ามีท่าทางสงบนิ่ง ผมสีน้ำตาลแดงที่สยายลงมาเป็นลอนถึงไหล่ และเครา ดวงตาของพระองค์ถูกบรรยายว่าสดใสและสงบสุข และท่าทางโดยรวมของพระองค์แสดงถึงพระคุณและอำนาจของพระเจ้า

ประเด็นสำคัญจากคำอธิบายในจดหมาย:

• ผม : จดหมายฉบับนี้บรรยายถึงพระเยซูที่มีผมสีน้ำตาลแดงหรือสีน้ำตาลเกาลัด แสกตรงกลางและยาวถึงไหล่ ซึ่งแตกต่างจากภาพวาดพระเยซูที่มีผมตรงสีน้ำตาลเข้มในยุโรปในยุคหลัง
• ใบหน้า : กล่าวกันว่าใบหน้าของเขาไม่มีตำหนิ แสดงออกถึงท่าทางสงบและสุภาพ เคราของเขามีสีเดียวกับผม
• ดวงตา : ดวงตาของพระองค์ดูสดใสและเฉียบคม แสดงถึงความเมตตากรุณาและความรอบรู้
• ผิวพรรณและรูปร่าง : พระเยซูทรงมีผิวพรรณที่ขาวบริสุทธิ์และมีท่าทางที่ตรงและสง่างาม ซึ่งยิ่งทำให้พระองค์มีความรู้สึกสง่างามและสงบสุขมากยิ่งขึ้น

ภาพนี้มีความโดดเด่นในงานเขียนคริสเตียนยุคแรกและมีความโดดเด่นในเรื่องรายละเอียดเฉพาะที่ให้มา ซึ่งอาจส่งผลต่อการพรรณนาถึงพระเยซูในงานศิลปะยุโรปในศตวรรษต่อๆ มา

ต้นกำเนิดและความลึกลับของจดหมาย

จดหมายของเลนทูลัสปรากฏครั้งแรกในยุคกลาง แม้ว่าจะไม่เคยพบเอกสารต้นฉบับเลยก็ตาม จดหมายฉบับนี้ถูกสันนิษฐานว่าเขียนโดยปูบลิอุส เลนทูลัส ซึ่งเป็นชื่อที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในบันทึกประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการปกครองของโรมันในแคว้นยูเดีย กล่าวกันว่าเลนทูลัสเป็นคนร่วมสมัยกับปอนทิอัส ปีลาต แม้ว่าบันทึกจะระบุว่าปีลาตเป็นผู้ว่าราชการโรมันเพียงคนเดียวในช่วงเวลาที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นประวัติศาสตร์ของเลนทูลัส

แหล่งที่มาที่เป็นไปได้:

1. การปลอมแปลงในยุคกลาง : นักประวัติศาสตร์หลายคนสงสัยว่าจดหมายของเลนทูลัสอาจเป็นการปลอมแปลงในยุคกลาง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเติมช่องว่างในบันทึกทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอกของพระเยซู ในยุคกลาง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะวาดภาพพระเยซูในมุมมองใหม่ และจดหมายฉบับนี้ก็มีคำอธิบายที่สะดวก
2. ต้นฉบับของนักบวช : บางคนเสนอแนะว่าจดหมายฉบับนี้อาจมีที่มาจากสถานที่ของนักบวช ซึ่งบรรดาอาลักษณ์ทางศาสนาอาจรวบรวมประเพณีและบันทึกต่างๆ เกี่ยวกับพระเยซูไว้ในเอกสารนี้ นักบวชและนักบวชบางครั้งจะเสริมแต่งหรือสร้างเอกสารขึ้นเพื่อปลุกเร้าศรัทธา โดยเพิ่มความเคารพให้กับรูปพระเยซู
3. อิทธิพลของข้อความนอกพระคัมภีร์ : คำอธิบายในจดหมายของเลนทูลัสมีความคล้ายคลึงกับข้อความนอกพระคัมภีร์ของคริสเตียน ซึ่งมักให้รายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลในพระคัมภีร์มากกว่า เป็นไปได้ว่าคำอธิบายในจดหมายอาจดึงมาจากแหล่งที่มาหรือประเพณีนอกพระคัมภีร์ที่ส่งต่อกันมาผ่านประวัติศาสตร์ปากต่อปาก

ข้อถกเถียงเรื่องความถูกต้องแท้จริงของมัน

แม้ว่าบางคนในยุคกลางจะยอมรับ ว่า จดหมายของเลนทูลัสเป็นของแท้ แต่ในศตวรรษที่ผ่านมา นักวิชาการกลับมองว่าจดหมายฉบับนั้นไม่ใช่ของแท้ ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ว่าเลนทูลัสเป็นเจ้าหน้าที่โรมันในแคว้นยูเดีย และไม่มีแหล่งข้อมูลใดที่กล่าวถึงจดหมายฉบับนั้นก่อนยุคกลาง นอกจากนี้ บันทึกการบริหารของโรมันในสมัยพระเยซูไม่มีการกล่าวถึงผู้ว่าราชการคนที่สองในช่วงที่ปอนทิอัส ปีลาตดำรงตำแหน่ง

ความคิดเห็นของนักวิชาการ:

• อิทธิพลในยุคกลางต่อศิลปะนักวิชาการบางคนเสนอว่าแม้ว่าจดหมายฉบับนั้นจะเป็นของปลอม แต่ก็ได้ทิ้งผลกระทบที่ยั่งยืนต่อลักษณะการพรรณนาถึงพระเยซูในงานศิลปะตะวันตก ลักษณะทางกายภาพที่บรรยายไว้ในจดหมายนั้นมีอิทธิพลต่อการพรรณนาถึงพระเยซูในงานศิลปะยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและยุคกลาง ซึ่งมักจะแสดงพระองค์ด้วยผมที่ยาวสยาย ท่าทางสงบเสงี่ยม และรูปลักษณ์ที่สง่างาม
• ความคลางแคลงใจทางประวัติศาสตร์ : นักประวัติศาสตร์หลายคนไม่เชื่อจดหมายฉบับนี้เนื่องจากขาดหลักฐานยืนยันและมีองค์ประกอบที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัย ตัวอย่างเช่น คำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของพระเยซูไม่สอดคล้องกับข้อความของชาวยิวและคริสเตียนยุคแรก ซึ่งไม่ค่อยเน้นที่ลักษณะทางกายภาพ

อิทธิพลต่อศิลปะคริสเตียนและการรับรู้เกี่ยวกับพระเยซู

แม้ว่าจะมีคำถามเกี่ยวกับความถูกต้องของจดหมายฉบับนี้ แต่จดหมายของเลนทูลัสก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อภาพพระเยซูในงานศิลปะคริสเตียน ภาพของพระเยซูที่มีผมยาว ผิวขาว และท่าทางสงบเสงี่ยมกลายเป็นรูปแบบทั่วไปในสัญลักษณ์ทางศาสนา ซึ่งมีอิทธิพลต่อการแสดงภาพของพระเยซูมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ

ศิลปินอย่างเลโอนาร์โด ดา วินชีและไมเคิลแองเจโลได้นำเอาองค์ประกอบต่างๆ ของภาพวาดนี้มาใช้ ซึ่งส่งผลให้โลกตะวันตกมีมุมมองเกี่ยวกับพระเยซูมากขึ้น ผู้ศรัทธาหลายคนยังคงมองเห็นพระเยซูในลักษณะเดียวกับที่จดหมายของเลนทูลัสบรรยายไว้ ซึ่งเน้นย้ำถึงผลกระทบที่ยั่งยืนของเอกสารนี้ โดยไม่คำนึงถึงที่มาที่น่าสงสัย

ความคิดสุดท้าย

จดหมายของเลนทูลัสยังคงเป็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นของปลอมในยุคกลางหรือคำอธิบายโบราณที่แท้จริง จดหมายเหล่านี้ได้หล่อหลอมภาพลักษณ์ของพระเยซูในยุคปัจจุบันของเราอย่างไม่มีวันลบเลือน จดหมายฉบับนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์บางครั้งได้รับการหล่อหลอมจากศรัทธา วัฒนธรรม และจินตนาการทางศิลปะมากพอๆ กับข้อเท็จจริงที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว แม้ว่าเราจะไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของจดหมายฉบับนี้ได้เลย แต่มรดกของจดหมายฉบับนี้ยังคงอยู่ โดยถูกทอเป็นเนื้อผ้าของสัญลักษณ์คริสเตียนและภาพลักษณ์ของพระเยซูที่หลายคนเก็บไว้ในใจ

อ้างอิง

• บราวน์, RE (1988). พระเยซูในประวัติศาสตร์และภาพพรรณนาของพระองค์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
• วิลสัน, ไอ. (1996). พระเยซู: หลักฐาน . ฮาร์เปอร์คอลลินส์
• เทย์เลอร์, เจอี (2018). พระเยซูมีหน้าตาเป็นอย่างไร?ทีแอนด์ที คลาร์ก